1. ส้มแขก ภาษาอังกฤษ Garcinia (การ์ซิเนีย)
โดยมีถิ่นกำเนิดในอินเดียและศรีลังกา ซึ่งในบ้านเรานิยมปลูกมากในทางภาคใต้
ผลส้มแขกมีรสเปรี้ยวนิยมนำมาปรุงอาหาร เช่น
แกงส้ม แกงเลียง ต้มเนื้อ ต้มปลา เพื่อให้มีรสเปรี้ยว หรือใช้ทำน้ำแกงขนมจีน
ทำเป็นเครื่องดื่มลดความอ้วน
***สรรพคุณของส้มแขก***
- ช่วยแก้อาการไอ (ดอก)
- สรรพคุณส้มแขกใช้เป็นยาขับเสมหะ (ดอก)
- ส้มแขกสรรพคุณใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ
- ใบสดน้ำมารับประทานช่วยแก้อาการท้องผูก (ใบ)
- ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญอาหาร
- ช่วยดักจับแป้งและไขมันจากอาหารที่รับประทานเข้าไป
2. ชาเขียว
เป็นเครื่องดื่มซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน
เพราะในชาเขียวมีสารแอนติออกซิแดนท์ โพลีฟีนอล ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
สรรพคุณของชาเขียวอีกประการหนึ่ง
คือช่วยลดน้ำหนัก จากการวิจัยยังพบอีกว่าสารคาเฟอีนและสารฝาดแคททิคิน
ในชาเขียวทำให้เมตาบอลิซึมในร่างกายดีขึ้น เผาผลาญพลังงานได้มาก
เป็นผลทำให้น้ำหนักตัวลดลง โดยที่ไม่มีผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจ
- กล่าวกันว่าชาเขียวช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูห์มาติก
(rheumatoid arthritis) ที่มักจะเกิดกับสตรีวัยกลางคน
อาการของโรคโดยทั่วไปคือมีอาการของการอักเสบบวมแดง
ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ
- สารแคเทชินในชาเขียว ช่วยทำลายคอเลสเทอรอล
และกำจัดปริมาณของคอเรสเทอรอลในลำไส้ แค่นั้นยังไม่พอ
ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่พอดีอีกด้วย
- ช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย
อันที่จริงแล้วพบว่าชาเขียวเป็นตัวช่วยยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก
ต่อสู้กับเชื้อไวรัสในปากโดยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
3. พริกไทดำ ภาษาอังกฤษ Pepper มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Piper nigrum Linn
สำหรับสรรพคุณทางยานั้น
พริกไทยดำจะมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าพริกไทยล่อน (พริกไทยขาว)
สำหรับบุคคลทั่วไปไม่ควรรับประทานพริกไทยในปริมาณที่มากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดโทษได้
และสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคตา มีอาการเจ็บคอก็ไม่ควรรับประทานพริกไทย
รวมไปถึงผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวารก็ไม่ควรรับประทานมากเกินไปอาจจะทำให้อาการของริดสีดวงทวารกำเริบได้
!
***ประโยชน์ของพริกไทย***
- เมล็ดพริกไทยมีสารฟินอลิกส์ และสารพิเพอรีน
ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
- ช่วยขับเสมหะ เปิดคอให้โล่งขึ้น
- เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
ช่วยเพิ่มการสูบฉีดโลหิตเข้าหัวใจ
- ช่วยกระตุ้นการขับเหงื่อออกจากร่างกาย
เมื่อเหงื่อระเหยออกจากผิวแล้ว จะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบายมากยิ่งขึ้น
- ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
4. กระเจี๊ยบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus
sabdariffa โดยในประเทศไทยมีแหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่
จังหวัดลพบุรี สระบุรี อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี และฉะเชิงเทรา
***สรรพคุณของกระเจี๊ยบแดง***
- ช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด
- ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย
- ช่วยในการย่อยอาหาร ใช้เป็นยาระบาย
ช่วยหล่อลื่นลำไส้ ทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น
- ในอียิปต์
มีการใช้ทั้งต้นนำมาต้นกินเป็นยาลดน้ำหนักเนื่องจากเป็นยาระบาย
และยังช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้ได้อีกด้วย
อย. 26-1-00749-1-0006
ราคา 1,250 บาท
อย. 26-1-00749-1-0006
ราคา 1,250 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น